19 03 10 : TH
ที่มาภาพ www.markhun22.blogspot.com
“พระพุทธรูปที่ข้าพเจ้าเห็นนั้นหันหลังให้อะไรแล้วกำลังมองอะไรอยู่ ?”ความสงสัยนี้เองก็นำพาเราไปสู่ความรู้ที่ก้าวไปข้างหน้าเพื่อให้ได้มาซึ่งวาทกรรมใหม่ที่ไม่รู้จบ “นี่คือจุดเริ่มต้นของความเชื่อพื้นฐานของคุณ”คำถามของคุณมีคำตอบอยู่ในตัวเอง ส่วนความเชื่อของฉันพระพุทธรูปหันหลังให้ความหลง จึงมีแต่ผู้ที่เชื่อในความรู้สึกของตนเท่านั้นที่กล้าปิดทองข้างหลังพระ ดิฉันไม่เห็นงานนะคะแต่ฟังจากคำบอกกล่าวที่คุณเขียนไว้ดิฉันรู้สึกทึ่งมากในผลงานชิ้นนี้ เพราะในความเชื่อของดิฉันคำสอนของพระพุทธเจ้าคือสิ่งที่บริสุทธิ์ที่สุดไม่ควรให้สี ให้กลิ่น หรือมีไอแห่งความหลงใดๆหากเราต้องการที่จะสัมผัสหรือเรียนรู้ ดิฉันไม่เสนอแนวคิดหรืออุดมการณ์ใดๆนะคะสำหรับเรื่องคำสอนของพระพุทธเจ้าเพราะดิฉันเชื่อว่าดิฉันไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ มนุษย์ทุกคนหากเข้าถึงมายาคติเมื่อนั้นเราอาจจะสร้างการสื่อสารที่แท้จริงขึ้นมาได้ ลองย้อนกลับไปดูสิคะว่าทำไมมนุษย์คนนั้นถึงได้ไปเดินอยู่บนดวงจันทร์ ได้มีใครบอกเค้าหรือเปล่าว่าบนดวงจันทร์แห่งนั้นจะมีเทพธิดาอาศัยอยู่หรือว่าเค้าเชื่อในอะไรในขณะที่เค้านั่งมองดูดวงจันทร์ดวงนั้นอยู่เป็นเวลาหลายปี ความจริงย่อมอยู่เหนือความเชื่อ อิสรภาพเกิดขึ้นเมื่อเราไม่รู้ “ถ้อยคำไม่ใช่สิ่งที่พูดถึงการพรรณานั้นไม่ว่าจะมีเหตุผลสวยงามสักปานใด หรือจะพูดให้ซับซ้อนพิสดารสักเพียงไหนก็จงระลึกไว้เสมอว่าถ้อยก็ไม่ใช่สิ่งที่พูดถึงอยู่ดี”..วัคซีน..บินให้ไกลและก็จะไปให้ถึงแม้จะไม่ใช่ที่ปลายสายรุ้งเส้นนั้น...
ซีน ขอบคุณมาก อย่าพึ่งลบบทความนะ เดี๋ยวจะมาตอบคำถามบ้างส่วนเพิ่มเติม ในบทความมีประเด็นใหม่ๆเกิดขึ้น ทั้งของซีนเองและของคุณวัคซีน เราจะขอนำบทความไปลงไว้ที่บล็อกด้วย แต่ตอนนี้ 20/4/53เวลา 11.34 ติดธุระอยู่ ยังไม่สะดวกลงบทความเพิ่มเติม
เขียนงานใหม่แล้วนะคะงานชิ้นนี้มันเป็นการต่อยอดความคิดจากงานมายาคติของคุณ ไอเดียมันผุดขึ้นมาจากศิลปะและคำอธิบายที่คุณแสดงไว้ลองเข้าไปอ่านดูนะคะ "อิสระภาพบนหน้ากากสังคม"
“พระพุทธรูปที่ข้าพเจ้าเห็นนั้นหันหลังให้อะไรแล้วกำลังมองอะไรอยู่ ?”
ตอบลบความสงสัยนี้เองก็นำพาเราไปสู่ความรู้ที่ก้าวไปข้างหน้าเพื่อให้ได้มาซึ่งวาทกรรมใหม่ที่ไม่รู้จบ “นี่คือจุดเริ่มต้นของความเชื่อพื้นฐานของคุณ”คำถามของคุณมีคำตอบอยู่ในตัวเอง
ส่วนความเชื่อของฉันพระพุทธรูปหันหลังให้ความหลง จึงมีแต่ผู้ที่เชื่อในความรู้สึกของตนเท่านั้นที่กล้าปิดทองข้างหลังพระ ดิฉันไม่เห็นงานนะคะแต่ฟังจากคำบอกกล่าวที่คุณเขียนไว้ดิฉันรู้สึกทึ่งมากในผลงานชิ้นนี้ เพราะในความเชื่อของดิฉันคำสอนของพระพุทธเจ้าคือสิ่งที่บริสุทธิ์ที่สุดไม่ควรให้สี ให้กลิ่น หรือมีไอแห่งความหลงใดๆหากเราต้องการที่จะสัมผัสหรือเรียนรู้
ดิฉันไม่เสนอแนวคิดหรืออุดมการณ์ใดๆนะคะสำหรับเรื่องคำสอนของพระพุทธเจ้าเพราะดิฉันเชื่อว่าดิฉันไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ มนุษย์ทุกคนหากเข้าถึงมายาคติเมื่อนั้นเราอาจจะสร้างการสื่อสารที่แท้จริงขึ้นมาได้ ลองย้อนกลับไปดูสิคะว่าทำไมมนุษย์คนนั้นถึงได้ไปเดินอยู่บนดวงจันทร์ ได้มีใครบอกเค้าหรือเปล่าว่าบนดวงจันทร์แห่งนั้นจะมีเทพธิดาอาศัยอยู่หรือว่าเค้าเชื่อในอะไรในขณะที่เค้านั่งมองดูดวงจันทร์ดวงนั้นอยู่เป็นเวลาหลายปี ความจริงย่อมอยู่เหนือความเชื่อ อิสรภาพเกิดขึ้นเมื่อเราไม่รู้
“ถ้อยคำไม่ใช่สิ่งที่พูดถึงการพรรณานั้นไม่ว่าจะมีเหตุผลสวยงามสักปานใด หรือจะพูดให้ซับซ้อนพิสดารสักเพียงไหนก็จงระลึกไว้เสมอว่าถ้อยก็ไม่ใช่สิ่งที่พูดถึงอยู่ดี”
..วัคซีน..บินให้ไกลและก็จะไปให้ถึงแม้จะไม่ใช่ที่ปลายสายรุ้งเส้นนั้น...
ซีน ขอบคุณมาก อย่าพึ่งลบบทความนะ เดี๋ยวจะมาตอบคำถามบ้างส่วนเพิ่มเติม ในบทความมีประเด็นใหม่ๆเกิดขึ้น ทั้งของซีนเองและของคุณวัคซีน เราจะขอนำบทความไปลงไว้ที่บล็อกด้วย แต่ตอนนี้ 20/4/53เวลา 11.34 ติดธุระอยู่ ยังไม่สะดวกลงบทความเพิ่มเติม
ตอบลบเขียนงานใหม่แล้วนะคะงานชิ้นนี้มันเป็นการต่อยอดความคิดจากงานมายาคติของคุณ ไอเดียมันผุดขึ้นมาจากศิลปะและคำอธิบายที่คุณแสดงไว้ลองเข้าไปอ่านดูนะคะ "อิสระภาพบนหน้ากากสังคม"
ตอบลบ